สูทเคยเป็นเรื่องยากของผู้ชายไทยส่วนหนึ่งเพราะมันไม่ใช่วัฒนธรรมของเราแต่นั่นก็เป็นแนวคิดที่ล้าหลังสุดกู่เสียแล้วตอนนี้โลกผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวกันนะคะวัฒนธรรมข้ามไปมาได้
ผสมผสานได้ปัจจุบันสูทเป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนที่สุดที่แสดงความ ‘สุภาพ’
และมากไปกว่านั้น ยังเป็นมาตรวัดรสนิยมการเรียนรู้ที่จะเข้าสังคม และที่สำคัญที่สุด คือแสดงตัวตนของคุณ ในแบบที่คุณอยากให้โลกรู้จัก
คุณโบ๊ต จิราวัต เบญจกาญจน์ เจ้าของและดีไซเนอร์แบรนด์เสื้อผ้า JBB มีคำแนะนำดีๆ ฟังแล้วเข้าใจง่ายๆ มาฝากค่ะ
1 สิ่งที่อยู่ได้นานที่สุดในบรรดาเสื้อผ้าทั้งหมดคือสูท สังเกตได้ว่าทรงของสูทไม่ได้เปลี่ยนไปมากจากอดีต ประมาณหนึ่งทศวรรษซิลลูเอตต์ของสูทถึงจะเปลี่ยนสักที
การซื้อสูทจึงกลายเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งของคนซื้อ การซื้อสูทจริงๆ ราคามีตั้งแต่ 4-5 หมื่นจนเป็นแสนสูทพวกนี้อยู่ได้นาน ใส่ได้ตลอด
2 เวลาลองใส่สูท ดูไหล่ก่อน ถ้าไหล่พอดี ลำตัวที่เหลือเรายังพอแก้ได้ ถ้าไหล่ไม่พอดี เปลี่ยนตัวครับ ไม่แนะนำให้แก้ช่วงไหล่ของสูท แก้ยาก
ยกเว้นบางร้านเทเลอร์ที่ช่างแก้เป็นคนเดียวกับช่างที่เย็บแพตเทิร์นขึ้นมา เพราะเขาจะรู้วิธีว่าต้องไปปรับตรงไหน การแก้จุดหนึ่ง ไม่มีทางที่จะไม่กระทบจุดอื่น ถ้าคุณไปซื้อสูท Off-the-Rack
หรือสูทตัดสำเร็จตามร้าน ทางร้านมักจะบอกว่าแก้ได้ แต่ส่วนมากพังโดยเฉพาะสูทที่มาจากเมืองนอก วิธีการเย็บการเข้าแขนไม่ธรรมดา ช่างแต่ละคนมีวิธีการเข้าแขนไม่เหมือนกัน
ช่างแก้บางคนไม่ได้ดูว่าของเดิมมาอย่างไร แก้ไปถ้าไม่พัง ลุคของเสื้อตัวนั้น หรือของแบรนด์นั้นๆ จะเสียหาย
3 มันเป็นไปไม่ได้ที่เสื้อผ้าแบรนด์หนึ่งจะเหมาะกับคนทุกรูปร่าง คุณต้องไปแสวงหาไปลองสวมใส่ดู จะได้รู้ว่าที่เหมาะกับเราเป็นอย่างไร
4 สูทแบ่งเป็นประเภทได้ง่ายๆ คือ Single Breasted กระดุมแถวเดียวกับ Double Breasted กระดุมสองแถว มีกระดุมตั้งแต่เม็ดเดียวไปจนถึงสี่เม็ด สมัย 80s
เขาฮิตกระดุมสามเม็ด ทุกวันนี้ก็ยังมีคนชอบใส่อยู่ พูดตรงๆ ก็ค่อนข้างล้าสมัยแล้ว ตอนนั้นมันก็เหมาะกับตอนนั้น
5 กระดุมสักสองเม็ดก็พอครับ สามเม็ดทำให้เราดูตัน สี่เม็ดไม่ต้องพูดถึง ต้องเข้าใจก่อนว่าฝรั่งที่เราเห็นบนรันเวย์ เขาตัวสูงมาก เขาอาจจะใส่กระดุมสามเม็ดแล้วโอ.เค.คนไทยช่วงตัวสั้น
ยิ่งกระดุมหลายเม็ดขึ้น พื้นที่โชว์ V Zone ซึ่งก็คือตรงที่เห็นเสื้อเชิ้ตกับเนกไทก็จะน้อยลง ช่วงวีโซนนี่แหละทำให้ลำตัวเราดูเพรียวขึ้น
6 ผมไม่เห็นด้วยที่บางคนคิดว่าไปงานเป็นทางการ อย่าใส่ทรงฟิต มันดูแฟชั่นไปการใส่สูทที่เข้ารูปทำไมถึงจะไม่เหมาะสมคนยุโรป อเมริกา ต่อให้ไปงานที่เป็นทางการแค่ไหน
สูทเขาก็ต้องพอดีตัว ผมไม่เข้าใจว่าความคิดนี้มาจากไหนเหมือนกันมีแต่ชาติเราที่คิด
7 ถ้างบประมาณของคุณจำกัด ซื้อได้แค่ตัวเดียว คงต้องเป็นสีดำครับ ใส่ไปได้ทุกโอกาส ถ้าซื้อต่อได้ มีดำแล้ว ที่ผมอยากให้ซื้อจริงๆ คือสีเทาเข้ม เข้ากับเสื้อผ้าและเนกไทได้ค่อนข้างง่าย
มีตัวหนึ่งเอาไปสลับใส่กับตัวอื่นได้ เราอาจซื้อสูทครบชุด แต่สามารถแยกแจ๊กเก็ตไปใส่กับกางเกงยีนส์ก็ได้ ต่อไปควรมีสีกรมท่า แต่ถ้าใส่ไม่ดีจะดูแก่
8 การใส่ดีหรือไม่ดี เป็นเรื่องของสไตลิ่ง อย่างเนวี่เบลเซอร์ ถ้าทรงมันพอดีเหมาะกับรูปร่างเรา เอาไปใส่กับกางเกงสีกากีมันก็สวย บางคนแฟชั่นหน่อย กลางวัน เขาใส่กับกางเกงขาสั้นก็ได้
ของบางอย่างคลาสสิกมีมานานทุกยุคทุกสมัย แต่เราไม่จำเป็นต้องใส่มันเหมือนเมื่อร้อยปีที่แล้ว เราเอามาปรับใช้เข้ากับตัวเราได้
9 สูทถ้าให้ดีควรเป็นผ้าวูล 100 เปอร์เซ็นต์ บางคนคิดว่าต้องหนา แต่มันมีวูลประเภทที่เรียกว่า Tropical Weight Wool คือเขาทอจนบางมาก สามารถใส่ซัมเมอร์ได้
ใส่สบายกว่าแบบผสมโพลีเอสเตอร์ เพราะเส้นใยธรรมชาติระบายความร้อนได้ดีกว่า อากาศถ่ายเทได้มากกว่า
10 แจ๊กเก็ตสูทสีดำ ข้างล่างใส่กับอะไรได้หมด ยกเว้นกางเกงขาว มันดูตลก การใส่กางเกงขาวเป็นเรื่องที่เยอะมากสำหรับชีวิตจริง ยิ่งถ้าเสื้อขาวด้วยกางเกงขาวด้วยเสี่ยงมากที่จะเป็นนักร้อง
คือมันไม่มีผิดถูกหรอกนะครับ บางคนใส่แล้วอาจจะเอาอยู่ถ้าคุณทำได้ ผมดีใจด้วย แค่บอกว่ามันยาก
11 สีบางสีไม่ควรจะอยู่ด้วยกัน เช่น ถ้าคุณมีแจ๊กเก็ตสูทสีกรมท่า ใส่กับกางเกงดำดูอย่างไรก็ผิด เพราะสองสีนี้มันใกล้กันจนเกินไป แต่ก็ต่างกัน มองไกลๆ แล้วมันเหมือนเราหยิบมาผิด
ในขณะที่ถ้าคุณใส่สีดำกับสีเทาไปเลย แบบนี้ดูตั้งใจ
12 สีกากีเป็นสีที่ช่วยชีวิตคนไว้เยอะมาก ถ้าคิดไม่ออก กากีเป็นสีเดียวที่เข้ากับทุกสีได้ ตั้งแต่ดำจนถึงเขียว ม่วง ส้ม สีกากีจะช่วยเบรกทุกอย่างให้กลมกลืนเข้าด้วยกัน
13 วิธีเลือกเนกไทให้เหมาะกับสูทดูที่ขนาดปก สูทเดี๋ยวนี้ปกไม่ใหญ่ ถ้าเราเลือกเนกไทที่กว้างขนาดประมาณฝามือ มันก็ไม่สมดุลปกเสื้อเล็กลง เนกไทต้องเล็กตาม บางคนตัวตันใส่เนกไทใหญ่
พื้นที่เหลือน้อย ยิ่งดูอึดอัด เนกไทขนาดกว้างสัก 5.5 เซนติเมตร กำลังสวย
14 ผมแนะนำนิตยสารญี่ปุ่นครับ แนะนำอย่างละเอียด แม้เราอ่านไม่ออก ดูรูปเอาก็สอนเราได้เยอะ แต่ถ้าเอาแบบอ่านออกด้วย ผมว่านิตยสาร GQ ครับ คนอเมริกันไม่แฟชั่นมากเหมือนคนยุโรป
การที่เขาสอนวิธีเลือกสูท แมตช์เนกไทต่างๆ เขาก็จะสอนด้วยวิธีที่ค่อนข้างเข้าใจง่าย เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นสนใจ
15 เสื้อผ้าผู้ชายมีกฎเกณฑ์ค่อนข้างเยอะ อย่างไรเราก็ต้องอยู่ในกรอบ แต่สิ่งที่ท้าทายเราก็คือทำอย่างไรเราจะเล่นอยู่ในกรอบนี้ได้ แล้วเล่นให้สนุกด้วย
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : IMAGE